สหราชอาณาจักรออกจากกลุ่มการค้าของสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา และบรรลุข้อตกลงการค้าเพียงไม่กี่วันก่อนนั้น
ข้อตกลงการค้าดังกล่าวมีความยาวกว่า 1,200 หน้า อย่างไรก็ตาม กลับมาเนื้อหาเกี่ยวกับการบริการทางการเงินน้อยมาก ซึ่งภาคดังกล่าวมีสัดส่วน 7% ในเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรและ 10% ของรายได้ทางภาษี
ปัญหาเฉพาะอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น คือ การเคลียร์ดอกเบี้ยในสกุลเงินยูโร (euro-denominated derivatives) โดยขนาดของตลาดอนุพันธ์ในยุโรป (European derivatives) มีมูลค่าสูงถึง 680 ล้านล้านยูโร (834 ล้านล้านดอลลาร์) ในปี 2562 และกิจกรรมการ clearing ในยุโรปส่วนใหญ่ที่มีในกรุงลอนดอน อาทิ LCH
จนถึงขณะนี้ European Securities and Markets Authority ได้ตกลงที่จะยกเลิกข้อตกลงการ clearing สำหรับอนุพันธ์เหล่านี้ (derivatives) จนถึงวันที่ 22 มิถุนายน ทำให้สถาบันในสหภาพยุโรปมีเวลาในการลดการพึ่งพาการ clearing ในสหราชอาณาจักร โดยก่อนหน้านี้มีการกล่าวว่า มีความต้องการให้การซื้อขายอนุพันธ์สกุลเงินยูโรเกิดขึ้นภายในสหภาพยุโรปเท่านั้นหรือบางแห่งที่มีกฎระเบียบที่ “เท่าเทียม” กัน
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นที่จะเผยแพร่บันทึกความเข้าใจภายใน 12 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับกฎความเท่าเทียมกันเหล่านี้มากขึ้น ซึ่งมีความสำคัญต่อภาคบริการดังกล่าวอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การสูญเสียความสามารถในการซื้อขายได้อย่างเสรีหลัง Brexit ส่งผลให้พนักงานระดับอาวุโสหลายรายย้ายตำแหน่งไปยังยุโรปในเมืองต่าง ๆ อาทิ แฟรงก์เฟิร์ต และปารีส
แหล่งข่าว The Brexit deal leaves the future uncertain for financial services — here’s what is at stake โดย CNBC, 5 ม.ค. 2564